ถึงเวลาที่แฟนมวยทั่วโลกจะได้รู้จักกับ “พญาครุฑ เสือจันถกมวยไทย” นักสู้ดาวรุ่งวัย 19 ปี ผู้คว้าแชมป์จากเวที Road to ONE Thailand ซีซัน 3 รุ่น 54 กก. ที่กำลังจะได้เปิดตัวครั้งแรกในศึก ONE ลุมพินี 106 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของเส้นทางนักมวยอาชีพ โดยศึกนี้จะถ่ายทอดสดไปยังผู้ชมใน 195 ประเทศทั่วโลก ในวันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม 2568 ณ สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น.
จากเด็กน้อยหอบหืดสู่นักมวยมืออาชีพ
“พญาครุฑ” หรือ “อาดีซีน หมัดอะดัม” ชื่อเล่น “มีน” เกิดเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2548 เป็นลูกชายคนเล็กในครอบครัวที่มีพี่สาวอีก 3 คน โดยบิดามารดาประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป เส้นทางมวยของเขาเริ่มต้นเมื่ออายุเพียง 11 ปี แม้จะมีอุปสรรคจากโรคหอบหืดและไม่ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวในช่วงแรก
หลังจากฝึกซ้อมอย่างหนักนาน 9 เดือน เขาได้โอกาสขึ้นชกไฟต์แรกในชีวิต และสามารถเอาชนะด้วยการน็อกคู่ชกในยกที่ 2 พร้อมรับค่าตัวครั้งแรก 500 บาท นับเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางนักมวยที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
ปัจจุบัน นักสู้เจ้าของฉายา “ศอกอาบัง” ฝึกซ้อมอยู่ที่ค่ายมวยเสือจันถกบ้านมวยไทย หนึ่งในค่ายมวยที่ได้รับเงินสนับสนุน 500,000 บาท จาก “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” ผู้ก่อตั้ง ประธาน และซีอีโอ ONE ภายใต้โครงการพัฒนาค่ายมวยขนาดเล็กทั่วประเทศไทย
เส้นทางสู่ ONE ลุมพินี
พญาครุฑได้โอกาสขึ้นชกที่กรุงเทพฯ ครั้งแรกเมื่ออายุ 14 ปี ก่อนสั่งสมประสบการณ์จนคว้าแชมป์ Road to ONE Thailand ซีซัน 3 พร้อมรับสัญญานักกีฬาสังกัด ONE และรางวัลนักมวยไทยใช้ศิลปะแม่ไม้มวยไทยดีเด่นวันมวยไทย 2568
“หลังจากคว้าแชมป์ Road to ONE Thailand ซีซัน 3 มาครองได้ ผมยังไม่ได้ขึ้นชกที่ไหนอีกเลย แต่ก็เข้ายิมฝึกซ้อมทำร่างกายมาตลอด จนกระทั่งหนึ่งเดือนหลังถึงมาเร่งอย่างเต็มที่ ตอนนี้ผมมีความมั่นใจในการชกรูปแบบ 3 ยก นวมเล็ก มากขึ้นแล้ว หลังจากทำผลงานได้น่าพอใจในการแข่งขันมวยรอบช่วงที่ผ่านมา” พญาครุฑกล่าว
เขาเสริมว่า “ตั้งแต่มีศึก ONE ลุมพินี เกิดขึ้น ผมเฝ้ารอโอกาสจะได้ชกในรายการนี้มาตลอด สำหรับการชกครั้งแรกนี้ ผมได้เสริมเรื่องการเข้ายิมเพิ่มมวลกล้ามเนื้อให้แข็งแกร่งมากขึ้น เพราะปกติผมชกอยู่ที่พิกัด 119 ปอนด์ แต่ไฟต์นี้ต้องขยับเวตมาชกในรุ่นสตรอว์เวต 125 ปอนด์ โดยมีวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาช่วยด้วย ทำให้ไม่มีปัญหาสำหรับการปรับตัว”
การเตรียมตัวสู้ศึกใหญ่
พญาครุฑยังได้รับการติวเข้มจาก “ครูหนึ่ง ยอดเสกสรร” ผู้ฝึกสอนที่เน้นเรื่องการป้องกันตัวและเพิ่มเทคนิคการชกเดินเข้าออก เพื่อให้มีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้นบนเวที ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากผลงานล่าสุดของ “เสือจั่น ส.อิสระโชติ” เพื่อนร่วมค่ายที่เพิ่งคว้าชัยชนะในศึก ONE ลุมพินี
“ไฟต์นี้ผมรู้สึกว่ามีความท้าทาย อยากโชว์ฝีมือในรายการนี้อย่างเต็มที่และต้องการเก็บชัยชนะให้ได้เหมือนกัน” พญาครุฑกล่าวด้วยความมุ่งมั่น
แม้จะมีความกดดันจากการเป็นแชมป์ Road to ONE Thailand ซีซัน 3 เพราะแชมป์ร่วมรายการอย่าง “กาเบรียลเล โมราม” นักสู้สาวจากบราซิล เคยประเดิมเวทีนี้ด้วยความพ่ายแพ้ แต่พญาครุฑพร้อมสู้เต็มที่
วิเคราะห์คู่ต่อสู้ “คาซาน ซาโลมอฟ”
พญาครุฑจะต้องพบกับ “คาซาน ซาโลมอฟ” ดาวรุ่งวัย 18 ปี จากอุซเบกิสถาน ที่มาด้วยความมุ่งมั่นจะแจ้งเกิดในรายการนี้เช่นกัน ภายใต้กติกามวยไทย รุ่นสตรอว์เวต (115-125 ปอนด์)
“ผมศึกษาการชกของ คาซาน มาพอสมควร เขามีหมัด เตะขา อาวุธหลากหลาย แต่เรื่องการป้องกันตัวเขายังทำได้ไม่ค่อยดีนัก จุดที่ผมต้องระวังมากเป็นพิเศษคือลูกเตะกลับหลังและถีบหน้า รวมถึงท่าพลิกแผลงต่าง ๆ ที่เขาพร้อมปล่อยออกมา ส่วนผมมีอาวุธครบเครื่อง รวมถึงแม่ไม้มวยไทยเต็มมือออกไปสู้เหมือนเดิม”
พญาครุฑยังเสริมว่า “ไฟต์นี้ถ้าฝ่ายไหนเผลอทำพลาดก่อนก็มีโอกาสจบเกมไวได้เหมือนกัน ผมเชื่อว่าตัวเองมีอาวุธหนักแรงพอตัวที่จะปิดเกมได้ เพราะอยากได้โบนัส 350,000 บาทด้วย ถ้าผมได้เงินก้อนนี้จะนำไปช่วยพัฒนาทำให้ค่ายมวยของตัวเองให้ดีขึ้น ผมอยู่ที่นี่ตั้งแต่ยังไม่มีเวทีมวยต้องซ้อมบนพื้นหญ้า ตอนนี้ผ่านมา 8 ปีแล้ว ทำให้มีความผูกพันมากครับ”
เป้าหมายและความฝัน
พญาครุฑย้ำชัดว่าไฟต์นี้เป็นก้าวแรกที่สำคัญอย่างมากต่อเส้นทางอาชีพของเขา โดยมีเป้าหมายหลักคือการประสบความสำเร็จในระดับโลก
“ถ้าผ่านไฟต์นี้ไปได้สวย ๆ ผมอยากมีโปรแกรมขึ้นชกในรายการอย่างต่อเนื่อง ทุกวันนี้ผมชกมวยเพราะมีความฝันอยากมีชื่อไต่เข้าไปอยู่ในแรงกิงและก้าวไปสู่ตำแหน่งแชมป์โลก ONE ให้ได้ โดยมี ตะวันฉาย (พีเค.แสนชัย) และ รถถัง (จิตรเมืองนนท์) ที่ผมชื่นชอบและอยากไปยืนอยู่ตรงจุดนั้นเหมือนพวกพี่ ๆ เขาให้ได้”
“ฝากถึงแฟนมวยไทยทุกคนช่วยเป็นกำลังใจให้ พญาครุฑ ด้วย ผมจะเก็บชัยชนะมาให้ได้ ไฟต์เปิดตัวจะทำให้ดี ไม่ให้ทุกคนต้องผิดหวังแน่นอนครับ” พญาครุฑกล่าวทิ้งท้าย
ช่องทางรับชม
แฟนกีฬาการต่อสู้สามารถติดตามศึก ONE ลุมพินี 106 คู่ “คาซาน vs พญาครุฑ” ได้ในวันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม 2568 โดยจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR หรือรับชมผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้:
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
- เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 19.30 น.
- ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.
- Watch.ONEFC.com (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.
